โทนี มอร์ริสัน

โทนี มอร์ริสัน
โทนี มอร์ริสัน
	มอร์ริสันเมื่อปี 1998
เกิด	โคลดี อาร์เดเลีย วอฟฟอร์ด; 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1931; ลอเรนรัฐโอไฮโอ สหรัฐ
เสียชีวิต	สิงหาคม 5, 2019(88 ปี); บร็องซ์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
อาชีพ	นักแต่งนวนิยาย; นักเขียนเรียงความ; นักเขียนเรื่องเด็ก; อาจารย์มหาวิทยาลัย;
การศึกษา	มหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด(BA); มหาวิทยาลัยคอร์เนล(MA);
แนว	นิยายวรรณกรรม
ผลงานที่สำคัญ	The Bluest Eye(1970); Sula(1973); Song of Solomon(1977); Tar Baby(1981); Beloved(1987);
รางวัลสำคัญ	เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี; เหรียญมนุษย์ธรรมแห่งชาติ; รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม; รางวัลพูลิตเซอร์สาขานวนิยาย;
คู่สมรส	แฮร์โรลด์ มอร์ริสัน (สมรส 1958; หย่า 1964)
บุตร	2
ลายมือชื่อ
	วิกิคำคมมีคำคมที่กล่าวโดย หรือเกี่ยวกับโทนี มอร์ริสัน

โคลอี แอนโทนี วอฟฟอร์ด มอร์ริสัน(อังกฤษ:Chloe Anthony Wofford Morrison) ชื่อเกิดโคลอี อาร์เดเลีย วอฟฟอร์ด(Chloe Ardelia Wofford) (18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1931 – 5 สิงหาคม ค.ศ. 2019) หรือที่รู้จักในชื่อโทนี มอร์ริสัน(Toni Morrison) เป็นนักประพันธ์ชาวอเมริกัน นวนิยายเรื่องแรกของเธอเรื่องThe Bluest Eyeได้รับการตีพิมพ์ในปี 1970 ส่วนผลงานเรื่องSong of Solomon(1977) ได้รับความสนใจในระดับชาติและได้รับรางวัลเนชันนอลบุกคริติกเซอร์เคิล ต่อมาในปี 1988 มอร์ริสันได้รับรางวัลพูลิตเซอร์สาขานวนิยายจากเรื่องBeloved(1987) เธอได้ยังได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี ค.ศ. 1993^[2]

มอร์ริสันเกิดและเติบโตในเมืองลอเรนรัฐโอไฮโอ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ดในปี ค.ศ. 1953 ในระดับปริญญาตรีสาขาภาษาอังกฤษ เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวรรณคดีอเมริกันจากมหาวิทยาลัยคอร์เนลในปี ค.ศ. 1955 ต่อมาในปี ค.ศ. 1957 เธอกลับมาที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด มอร์ริสันได้เป็นบรรณาธิการนิยายหญิงผิวดำคนแรกของสำนักพิมพ์แรนดอมเฮาส์ที่นครนิวยอร์กในช่วงปลายทศวรรษ 1960 เธอเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนักเขียนในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 นวนิยายเรื่อง Belovedของเธอถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ ในปี 1998 ผลงานของมอร์ริสันได้รับการยกย่องในการกล่าวถึงผลกระทบอันร้ายแรงของการเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐและประสบการณ์ของชาวอเมริกันผิวดำ

อ้างอิง[แก้]

↑"Toni Morrison Fast Facts".CNN.August 8, 2019.สืบค้นเมื่อAugust 8,2019.
↑Desk, OV Digital (2023-02-17)."18 February: Remembering Toni Morrison on Birth Anniversary".Observer Voice(ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).สืบค้นเมื่อ2023-03-10.

[1] "Toni Morrison Fast Facts".CNN.August 8, 2019.สืบค้นเมื่อAugust 8,2019.

[2] Desk, OV Digital (2023-02-17)."18 February: Remembering Toni Morrison on Birth Anniversary".Observer Voice(ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).สืบค้นเมื่อ2023-03-10.

[1]

[2]

ด ค ก รายชื่อผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
ค.ศ. 1901–1925 (พ.ศ. 2444–2468)	พรูดอม(1901)·ม็อมเซิน(1902)·บีเยินซ็อน(1903)·มิสทราล/เอย์ซากีร์เร(1904)·แชงกีเยวิตช์(1905)·คาร์ดุชชี(1906)·คิปลิง(1907)·อ็อยเคิน(1908)·ลอเกร์เลิฟ(1909)·ไฮเซอ(1910)·มาแตร์แล็งก์(1911)·เฮาพท์มัน(1912)·ฐากุร(1913)·รอล็อง(1915)·ไฮเดินสตัม(1916)·เกลเลอโรป/พอนทอปปีดัน(1917)·ชปิทเทอเลอร์(1919)·ฮัมซัน(1920)·ฟร็องส์(1921)·เบนาเบนเต(1922)·เยตส์(1923)·แรย์มอนต์(1924)·ชอว์(1925)
ค.ศ. 1926–1950 (พ.ศ. 2469–2493)	เดเลดดา(1926)·แบร์กซอน(1927)·อึนเซ็ต(1928)·มันน์(1929)·ลูอิส(1930)·คาร์ลเฟลต์(1931)·กอลส์เวอร์ธี(1932)·บูนิน(1933)·ปีรันเดลโล(1934)·โอนีล(1936)·มาร์แต็ง ดูว์ การ์(1937)·บัก(1938)·ซิลลันแป(1939)·เยนเซน(1944)·มิสตรัล(1945)·เฮ็สเซอ(1946)·ฌีด(1947)·เอเลียต(1948)·ฟอกเนอร์(1949)·รัสเซลล์(1950)
ค.ศ. 1951–1975 (พ.ศ. 2494–2518)	ลาเกอร์กวิสต์(1951)·โมรียัก(1952)·เชอร์ชิลล์(1953)·เฮมิงเวย์(1954)·ลัฆส์แนส(1955)·ฆิเมเนซ(1956)·กามูว์(1957)·ปัสเตร์นัค(1958)·กวาซีโมโด(1959)·แปร์ส(1960)·อานดริช(1961)·สไตน์เบ็ก(1962)·เซเฟริส(1963)·ซาทร์(1964)·โชโลคอฟ(1965)·อักนอน/ซัคส์(1966)·อัสตูเรียส(1967)·คาวาบาตะ(1968)·เบ็คเค็ทท์(1969)·โซลเซนิตซิน(1970)·เนรูดา(1971)·เบิล(1972)·ไวต์(1973)·จอห์นสัน/มาร์ตินสัน(1974)·มอนตาเล(1975)
ค.ศ. 1976–2000 (พ.ศ. 2519–2543)	เบลโลว์(1976)·อาเลย์กซันเดร(1977)·ซิงเกอร์(1978)·เอลีติส(1979)·มีวอช(1980)·คาเนตติ(1981)·มาร์เกซ(1982)·โกลดิง(1983)·ไซเฟิร์ต(1984)·ซีมง(1985)·โชยิงกา(1986)·บรอดสกี(1987)·มะห์ฟูซ(1988)·เซลา(1989)·ปัซ(1990)·กอร์ดิเมอร์(1991)·วอลคอต(1992)·มอร์ริสัน(1993)·โอเอะ(1994)·ฮีนีย์(1995)·ชึมบอร์สกา(1996)·โฟ(1997)·ซารามากู(1998)·กรัส(1999)·เกา ซิงเจี้ยน(2000)
ค.ศ. 2001–ปัจจุบัน (พ.ศ. 2544–ปัจจุบัน)	ไนพอล(2001)·แกร์เตส(2002)·คุตซี(2003)·เย็ลลีเน็ค(2004)·พินเทอร์(2005)·พามุค(2006)·เลสซิง(2007)·เลอ เกลซีโย(2008)·มึลเลอร์(2009)·โยซา(2010)·ทรานสเตรอเมอร์(2011)·โม่เหยียน(2012)·มุนโร(2013)·มอดียาโน(2014)·อะเลคซีเอวิช(2015)·ดิลลัน(2016)·อิชิงูโระ(2017)·ตอการ์ตชุก(2018)·ฮันท์เคอ(2019)·กลิก(2020)·เกอร์นาห์(2021)·แอร์โน(2022)·ฟ็อสเซอ(2023)